เอปสันเปิดตัวแอลซีรี่ส์ 6 รุ่นใหม่ ตอกย้ำเจ้าบัลลังก์พรินเตอร์แท็งค์แท้
Share | Tweet |
เอปสันเปิดตัวแอลซีรี่ส์ 6 รุ่นใหม่ ตอกย้ำเจ้าบัลลังก์พรินเตอร์แท็งค์แท้
10 กรกฎาคม 2558 - เอปสัน ประเทศไทยฉลองเปิดตัวพรินเตอร์แท็งค์แท้ครบ 5 ปี ลั่นครองตำแหน่งเจ้าตลาดอิงค์เจ็ท ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 36% พร้อมนำเทรนตลาดต่อด้วยการเปิดแอลซีรี่ส์ 6 รุ่นใหม่รุกธุรกิจทุกขนาด
.
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เอปสันได้เปิดตัวแอลซีรี่ส์ พรินเตอร์แท็งค์แท้ของบริษัทฯ ในไทยมาแล้ว 5 ปี และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าตั้งแต่ปีแรก จนปัจจุบัน ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 36% และมีสินค้ามากถึง 14 รุ่น สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้ตามบ้านและองค์กร ธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่โฮมออฟฟิศไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ที่สำคัญแอลซีรี่ส์ยังได้เปลี่ยนโฉมหน้าตลาดและ พฤติกรรมของผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเห็นได้จากจำนวนผู้ใช้พรินเตอร์ตลับหมึกและพรินเตอร์แท็งค์ประกอบ ลดลงอย่างมาก และสำหรับโอกาสการฉลองครบรอบ 5 ปีแอลซีรี่ส์ในไทยครั้งนี้ เอปสันยังได้ออกสินค้าใหม่ 6 รุ่น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอีกด้วย
.
“เอปสันเป็นผู้ผลิตพรินเตอร์รายแรกของโลกที่พัฒนาระบบการจ่ายหมึกพิมพ์แบบต่อเนื่องที่ได้มาตรฐาน และ
มีสินค้าพรินเตอร์แท็งค์แท้แบรนด์ของตัวเองออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในการสร้าง นวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง และด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ในการพัฒนาสินค้าที่นานกว่าคู่แข่ง ปัจจุบันเอปสันจึงมีพรินเตอร์แท็งค์แท้มากรุ่นที่สุดในท้องตลาดให้ลูกค้าได้ เลือกใช้รุ่นที่ถูกใจและเหมาะกับงบประมาณและประเภทงานของตัวเองที่สุด ปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ช่วยให้แอลซีรี่ส์ ครองแชมป์ตลาดได้ ประกอบด้วยไมโครปิเอโซ เทคโนโลยีหัวพิมพ์เอกสิทธิ์ของเอปสัน ซึ่งได้รับการพัฒนามานาน กว่าสองทศวรรษ จนมีประสิทธิภาพสูง มีความทนทาน และพิมพ์งานได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ นอกจากนี้ ลูกค้ายังพอใจจุดเด่นอื่นๆ ของแอลซีรี่ส์ ทั้งด้านความเร็วในการพิมพ์ หมึกพิมพ์คุณภาพสูง และที่สำคัญคือต้นทุน
.
การพิมพ์ต่อแผ่นที่คุ้มค่ากว่า รวมไปถึงบริการหลังการขายที่รวดเร็วเป็นที่พอใจของลูกค้า และการรับประกันสินค้าจากเอปสันโดยตรง”
.
สินค้าใหม่ทั้ง 6 รุ่น ประกอบด้วยรุ่น L220 พรินเตอร์มัลติฟังก์ชั่น ที่มาพร้อมความเร็วในการพิมพ์ 27 ppm และประหยัดสูงสุด ด้วยจำนวนการพิมพ์สี 6,500 แผ่น และพิมพ์ขาวดำ 4,000 แผ่น ต่อน้ำหมึกหนึ่งชุด เปิดตัวในราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 4,690 บาท
.
รุ่น L310 เครื่องซิงเกิ้ลฟังก์ชั่น และรุ่น L360 และ L365 เครื่องมัลติฟังก์ชั่นสำหรับกลุ่มเอสเอ็มอี ที่ให้ความคุ้มค่า สูงสุด ความเร็วการพิมพ์สี่สี 33 ppm และขาวดำ 15 ppm โดยรุ่น L365 มีคุณสมบัติในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ สามารถสั่งพิมพ์ผ่านอุปกรณ์พกพาด้วยซอฟต์แวร์โซลูชั่น Epson Connect ซึ่งทั้งสามรุ่นเปิดตัวในราคารวมภาษี มูลค่าเพิ่ม ดังนี้ รุ่น L310 ราคา 4,990 บาท รุ่น L360 ราคา 5,990 บาท และรุ่น L365 ราคา 6,290 บาท
รุ่น L565 พรินเตอร์มัลติฟังก์ชั่นสำหรับธุรกิจขนาดกลาง ที่รองรับการพิมพ์จำนวนมาก และเพิ่มควาสะดวกสบาย ในการพิมพ์ด้วยถาดป้อนเอกสารอัตโนมัติ (Automatic Document Feeder) ทั้งยังมีจุดเด่นด้านการเชื่อมต่อ
Wi-Fi แบบต่อตรงกับอุปกรณ์พกพา 4 เครื่อง และรองรับโซลูชั่น Epson Connect ของเอปสัน และโซลูชั่นจาก
ค่ายอื่น ทั้ง Apple AirPrint, Google Cloud Print และ Mopria Print Service รุ่น 565 เปิดตัวในราคารวมภาษี มูลค่าเพิ่ม 9,290 บาท
.
รุ่น L655 แอลซีรี่ส์ ใช้หัวพิมพ์รุ่นใหม่ Epson PrecisionCore ที่ช่วยยกระดับความเร็วการพิมพ์สี่สี 33 ppm และขาวดำ 20 ppm และยังมีคุณสมบัติในการผสมหมึกเพื่อการพิมพ์ภาพขาวดำและภาพคุณภาพสูงบนกระดาษ
โฟโต้ที่สามารถกันน้ำและรอยเปื้อนได้ ทั้งยังสามารถสั่งพิมพ์ผ่านรูปแบบการเชื่อมต่อที่หลากหลาย รุ่น L655 วางขายใน ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 11,900 บาท
.
นายยรรยง กล่าวต่อว่า “สำหรับสินค้าใหม่ทั้ง 6 รุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ยังตอกย้ำความมั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่องให้ลูกค้า ด้วยการขยายการรับประกันในส่วนของตัวเครื่องรวมทั้งหัวพิมพ์จากเดิม 1 ปี เป็น 2 ปี เมื่อลงทะเบียนออนไลน์หลังซื้อเครื่อง หรือเมื่อยอดจำนวนพิมพ์ถึงปริมาณที่กำหนดไว้ อย่างหนึ่งอย่างใดถึงก่อน โดยรุ่น L220 รับการประกันที่ 15,000 แผ่น รุ่น L310, L360, L365 และรุ่น L565 อยู่ที่ 30,000 แผ่น ในส่วนรุ่น L655 อยู่ที่ 50,000 แผ่น”
.
“สินค้าทั้ง 6 รุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ล้วนแต่เป็นรุ่นอัพเกรดที่เพิ่มทั้งความเร็วและความคุ้มค่าในการพิมพ์ต่อแผ่น เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ตามบ้านและองค์ธุรกิจขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการพิมพ์จำนวนมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รุ่น L655 ที่ได้นำหัวพิมพ์รุ่นใหม่ Epson PrecisionCore ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อการพิมพ์งาน
ในเชิงอุตสาหกรรมมาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยเพิ่มมาตรฐานและคุณภาพการพิมพ์ในธุรกิจของลูกค้า หัวพิมพ์ Epson PrecisionCore ยังเป็นบทพิสูจน์ว่าเอปสันไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อลูกค้า”
.
“บริษัทฯ ยังมีกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสนับสนุนการเปิดตัวแอลซีรี่ส์รุ่นใหม่ เช่น โร้ดโชว์ทั่วประเทศ ที่เน้นสร้าง ประสบการณ์การใช้งานจริง เพื่อให้ลูกค้าได้ประทับใจกับจุดแข็ง ทั้งด้านความเร็วในการพิมพ์ ฟังก์ชั่นการทำงาน ที่ครบครัน การสั่งพิมพ์งานผ่านอุปกรณ์ไร้สาย ความทนทาน รวมไปถึงความคุ้มค่าในการลงทุนของแอลซีรี่ส์ด้วย ตัวเอง นอกจากนี้ เอปสันยังมีแผนจัดโปรโมชั่นพิเศษผ่านแคมเปญครบรอบ 25 ปีเอปสัน ประเทศไทยอีกด้วย”
.
“ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แอลซีรี่ส์ของเอปสันได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นพรินเตอร์ที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากนี้ไป เอปสันจะนำความสำเร็จนี้ขยายไปสู่ตลาดที่กว้างขึ้นอีก ทั้งในตลาดต่างจังหวัดและตลาดต่างประเทศ ที่เอปสันให้การดูแลอยู่ ทั้งเวียดนาม เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และปากีสถาน” นายยรรยง กล่าวสรุป